ในการไปเที่ยวที่จังหวัดอ่างทองในครั้งนี้ มีวัดอีกวัดหนึ่ง ที่มีผู้แนะนำให้ไปกราบสักการะพระนอนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยได้แก่ วัดขุนอินทประมูล ได้ทราบว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เคยมาจำพรรษา ณ วัดแห่งนี้ด้วย
การเดินทางไปวัด มีป้ายบอกตลอดทาง เมื่อถึงหน้าวัดจะมีที่จอดรถกว้างขวาง มาร้านค้าขายอาหารและของที่ระลึก มองเข้าภายในจะเห็นพระนอนตั้งตระหง่าน เด่นเป็นสง่าสวยงามมาก
วนนี้มีประชาชนมานมัสการเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลตรัษจีน และยังรถกระบวนของพระนวกะจากวัดในภาคกลางมาทัศนศึกษาในวันนีด้วย
ได้พาครอบครัวกราบนมัสการ เวียนประทักษิณ แล้วได้เดินมาชมร้านที่ตั้งเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมของวัดที่จัดแสดงไว้ให้ประชาชนได้มาเยี่ยมชม
วัดขุนอินทประมูลตั้งอยู่ในเขตตำบลอินทประมูล เป็นวัดโบราณสร้างขึ้นในสมัยกรุงสุโขทัย พิจารณาจากซากอิฐแนวเขตเดิมคะเนว่าเป็นวัดขนาดใหญ่ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ที่มีชื่อว่า พระศรีเมืองทอง มีความยาววัดจากปลายพระเมาลีถึงปลายพระบาทได้ 50 เมตร (25 วา) เดิมประดิษฐานอยู่ในวิหารแต่ถูกไฟไหม้ปรักหักพังไป เมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 1 เหลือแต่องค์พระตากแดดตากฝนอยู่กลางแจ้งมานานนับเป็นร้อยๆ ปี องค์พระพุทธรูปมีลักษณะและขนาดใกล้เคียงกับพระนอนจักรสีห์ จังหวัดสิงห์บุรี สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยเดียวกัน องค์พระนอนมีพุทธลักษณะที่งดงาม พระพักตร์ยิ้มละไม สงบเยือกเย็นน่าเลื่อมใสศรัทธายิ่งนัก พระมหากษัตริย์ไทยหลายพระองค์ได้เคยเสด็จมาสักการะบูชา อาทิเช่น พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ เสด็จมาเมื่อ พ.ศ. 2296 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ เจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ในปี พ.ศ. 2421 และ 2451 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันเสด็จฯ มาถวายผ้าพระกฐินต้นในปี พ.ศ.2516 และเสด็จมานมัสการอีกครั้งในปี พ.ศ. 2518
พุทธศาสนิกชนทั่วประเทศต่างนิยมมานมัสการเป็นเนืองนิจสอบถามข้อมูล นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดขุนอินทประมูลยังมีซากโบราณสถานวิหารหลวงพ่อขาว ซึ่งปัจจุบันเหลือเพียงแค่ฐาน ผนังบางส่วนและองค์พระพุทธรูป และ ในศาลาเอนกประสงค์ มีศาลรูปปั้นขุนอินทประมูลและโครงกระดูกมนุษย์ ขุดพบในเขตวิหารพระพุทธไสยาสน์เมื่อปี พ.ศ. 2541 ลักษณะนอนคว่ำหน้า มือและเท้ามัดไพล่อยู่ด้านหลัง เชื่อกันว่าเป็นโครงกระดูกขุนอินทประมูลแต่บ้างก็ว่าไม่ใช่ สันนิษฐานกันตามประวัติที่ได้เล่ากันว่า เป็นนายอากรผู้สร้างพระพุทธไสยาสน์ โดยยักยอกเอาเงินของหลวงมาสร้างเพื่อเป็นปูชนียสถาน ครั้นพระมหากษัตริย์ทรงทราบรับสั่งถามว่าเอาเงินที่ไหนมาสร้าง ขุนอินทประมูลไม่ยอมบอกความจริงเพราะกลัวส่วนกุศลจะตกไปถึงองค์พระมหากษัตริย์จึงถูกเฆี่ยนจนตาย วัดนี้จึงได้ชื่อว่า "วัดขุนอินทประมูล”
การเดินทางมายังวัดขุนอินประมูลนี้สามารถใช้เส้นทางได้ 3 สายคือสายอ่างทอง-อำเภอโพธิ์ทอง (เส้นทางหมายเลข3064 ) พอเจอแยกขวาที่กิโลเมตร 9 ก็ให้เลี้ยงเข้าไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร หรือจะเลือกใช้เส้นทางจากจังหวัดสิงห์บุรีไปทางอำเภอไชโยประมาณกิโลเมตรที่ 64-65 จะมีทางแยกซ้ายมือเข้าถึงวัดเป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร หรือสามารถใช้เส้นทางตัดใหม่สายอำเภอวิเศษชัยชาญ-โพธิ์ทอง (ถนนเลียบคลองชลประทาน เมื่อถึงอำเภอโพธิ์ทองมีทางแยกเข้าวัดอีก 2 กิโลเมตรก็ได้เช่นกัน
อิ่มบุญกันทุกคน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น