วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ศูนย์จำลองแผ่นดินไหว เมืองยามานาซิ



            ศูนย์จำลองแผ่นดินไหว (FUJINOEKI) หรือ (Earthquake Simulation Center) เป็นตัวแทนของการส่งข้อความไปถึงทุกคนให้รับรู้ถึงผลกระทบจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวและการระเบิดของภูเขาไฟ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้ ๆ กับเขตภูเขาไฟฟูจิ Kawaguchikoจังหวัด Yamanashi เปิดให้เข้าชมทุกวันจันทร์ถึงวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.00 น. 

                                            ถ่ายจากด้านหน้าภัตตาคารอาหารญี่ปุ่น


                     วิวของภูเขาไฟฟูจิ ในระยะไกลสวยงามมาก

          ภายในมีห้องจัดแสดงข้อมูลการประทุของภูเขาไฟจากทุกมุมโลก ห้องแสดงภาพแผ่นดินไหว ห้องแสดงเหตุการณ์หลังแผ่นดินไหว ห้องจำลองแผ่นดินไหว ห้องอุทกภัย ห้องเขาวงกตกระจก  นอกจากนี้ยังมีโซนภาพถ่ายกับภูเขาไฟฟูจิ โซนความรู้ต่าง ๆ และโซนช้อปปิ้งสินค้างานฝีมือของญี่ปุ่นต่าง ๆ เช่น มีดแบบดั้งเดิม ผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผา เครื่องสำอาง และของฝากอีกมากมาย

            ในวันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม 2561 เวลา 14.00 – 15.00 น. ตามเวลาของประเทศญี่ปุ่น คณะผู้เข้ารับการอบรมได้เดินทางไปศึกษาดูงาน ณ ศูนย์จำลองแผ่นดินไหว โดยมีวิทยากรซึ่งเป็นคนไทยได้นำชมนิทรรศการด้วยการบรรยายเป็นภาษาไทย




            วิทยากรผู้บรรยายได้อธิบายว่า ภายในศูนย์จำลองแผ่นดินไหวดังกล่าวแบ่งออกเป็น 2 โซน ได้แก่ โซนแผ่นดินไหว และโซนขายของปลอดภาษี  ด้านหน้าทางเข้าจะมีรูปปั้นของนักเดินทางชายหญิงคู่หนึ่งในชุดแต่งกายยุคเอโดะ


มีแท่นจำลองขนาดของการสั่นสะเทือนโดยให้อาสาสมัคร 2 คนขึ้นไปกระโดดบนแท่นกลม ซึ่งเมื่อกระโดดแล้วจะปรากฏขนาดของความแรงของการสั่นสะเทือนอยู่บนจอภาพที่อยู่ทางด้านหลังแท่นจำลอง วิทยากรได้บรรยายให้ความรู้ว่าแผ่นดินไหวเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ คือ
1.            เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
2.            เกิดจากการกระทำของมนุษย์
การเกิดแผ่นดินไหวตามธรรมชาติจะมีความรุนแรงมาก คือเกิดจากการเคลื่อนของเปลือกโลก

การเกิดสึนามิที่เมืองไทยเมื่อปี พ.ศ.2547 ซึ่งเกิดความสูญเสียอย่างมหาศาลมีผู้คนสูญหายและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ก็เป็นการเกิด After Shockจากการเกิดแผนดินไหวอย่างรุนแรงโดยมีศูนย์กลางอยู่บริเวณตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย

ที่ผ่านมากประเทศญี่ปุ่นได้มีการเกิดภูเขาไฟระเบิดมาแล้ว 49  ลูก
การทรุดตัวของชั้นผิวโลกเกิดจากผลกระทบที่มนุษย์ทำขึ้นได้แก่

-                   การขุดเจาะน้ำมัน เหมืองแร่ การทดลองอาวุธนิวเคลียร์ การกระโดดของมนุษย์ 
-                   มนุษย์เราเป็นผู้ทำให้พื้นดินเกิดความสั่นสะเทือน แค่เพียงการกระโดดก็ทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้

ประเทศญี่ปุ่นซึ่งตั้งอยู่ในแนวรอยเลื่อนของเปลือกโลกที่เรียกกันว่า “วงแหวนแห่งไฟ” (Pacific Ring of Fire หรือ the Ring of fire)  นั้นได้ส่งผลให้ญี่ปุ่นต้องเผชิญกับการเกิดแผ่นดินไหวนับครั้งไม่ถ้วนทั้งแผ่นดินไหวบนแผ่นดินและแผ่นดินไหวใต้พื้นมหาสมุทร โดยเฉพาะการเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดที่เกิดขึ้นใต้พื้นมหาสมุทรส่วนใหญ่จะส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิตามมา ซึ่งสร้างความเสียหายต่อชีวิต และ ทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะชายฝั่งทะเลด้านมหาสมุทรแปซิฟิกของญี่ปุ่น ย้อนไปเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 (ค.ศ.2011) ได้มีการเกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในประเทศญี่ปุ่น วัดความสั่นสะเทือนได้ 9 ริกเตอร์ หลังเกิดแผ่นดินไหวทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิซัดถล่มเมืองชายฝั่งของญี่ปุ่นทำให้บ้านเรือนพังพินาศประชาชนได้รับบาดเจ็บ ล้มตาย และ สูญหายกันเป็นจำนวนมาก แรงสั่นสะเทือนในครั้งนี้ทำให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์มีปัญหาในระบบหล่อเย็นและเกิดระเบิดจนมีสารกัมมันตภาพรังสีรั่วไหล ทำให้ทางการของญี่ปุ่นต้องอพยพประชาชนในพื้นที่โดยด่วน นับเป็นภัยพิบัติที่ร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น

เหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งนี้นับเป็นภัยธรรมชาติที่สร้างความเสียหายมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาโดยมีผู้เสียชีวิตในครั้งนั้น 15,858 คน (ร้อยละ 92 เสียชีวิตเนื่องจากการจมน้ำ) สูญหาย 3,057 คน และ บาดเจ็บ 5,364 คน อาคารเสียหายทั้งหลัง 111,044 อาคาร เสียหายครึ่งหลัง 71,936 อาคาร และ เสียหายบางส่วน 320,118 อาคาร รวมทั้งยังมีวิกฤตินิวเคลียร์ที่ส่งผลกระทบในวงกว้าง จากข้อสรุปของทีมนักวิจัยจากหน่วยงานวิจัยท่าเรือ และท่าอากาศยานที่ได้ทำการศึกษาโครงสร้างชายฝั่งเป็นระยะทางประมาณ 600 กิโลเมตรตามชายฝั่ง รวมทั้งงานทดสอบ และงานวิเคราะห์หลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิ สิ่งที่พบสำหรับการสั่นสะเทือนของพื้นดินจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ก็ คือ มีช่วงระยะเวลาการสั่นที่ยาว และ ความถี่ของการสั่นสูง ดังนั้นระดับความเสียหายของโครงสร้างเนื่องจากการสั่นสะเทือนจึงค่อนข้างน้อย

การเกิดแผ่นดินไหวของญี่ปุ่น หากเกิด 3 ริกเตอร์ ถือว่าเป็นเหตุการณ์ปกติธรรมดา 4 ริกเตอร์ จะมีการสั่นสะเทือน หากเกิด 5 ริกเตอร์ จะมีการสั่งอพยพประชาชนไปในที่ปลอดภัย จะมีระบบการแจ้งเตือนที่ทันสมัยและทันเหตุการณ์เป็นแอพพลิเคชั่นทางโทรศัพท์มือถือหรือ mobile ซึ่งประชาชนในญี่ปุ่นทุกคนจะติดตั้งแอพพลิเคชั่นนี้ไว้เพื่อรับการแจ้งเตือน

ดังนั้น หากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขึ้นจริง สิ่งที่ทุกคนควรปฏิบัติคือต้องมีสติ หากสิ่งของมาป้องกันที่ศีรษะ เช่น ยกกระเป๋าขึ้นป้องกันศีรษะ รีบหนีออกนอกตึกหรืออาคารให้ได้ภายใน 2 นาที โดยต้องมีสติในการหนีออกไปนอกอาคารเพื่อไปอยู่ในที่โล่งแจ้ง เช่น สวนสาธารณะ ซึ่งหากเกินเวลา 2 นาทีแล้วยังไม่สามารถออกไปได้ทันให้รีบไปหลบในห้องอาบน้ำ ซึ่งประเทศญี่ปุ่นจะมีการสร้างห้องอาบน้ำด้วยไฟเบอร์อย่างดีซึ่งสามารถป้องกันอันตรายจากแผ่นดินไหวได้ถึง 90% ซึ่งที่เกิดต่อจากนั้นคือไฟจะดับและอาจมีการถล่มของตึก เกิดไฟไหม้ขึ้นได้

จากนั้นวิทยากรได้ให้ผู้เข้ารับการอบรมลองเข้าไปในห้องจำลองที่มีไฟดับมืดสนิท และเป็นห้องจำเลยการเกิดแผ่นดินไหว และให้ผู้เข้ารับการอบรมเดินออกจากห้องผ่านห้องเขาวงกตกระจกโดยต้องใช้สมาธิในการสังเกตว่าจะเดินไปชนกระจกหรือไม่ ซึ่งผู้เข้ารับการอบรมต้องใช้มือยื่นออกไปเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการชนกับกระจก จนออกไปสู่ห้องด้านนอกได้จากนั้นเป็นการกล่าวขอบคุณและมอบของที่ระลึกให้แก่วิทยากรที่มาบรรยายให้ความรู้แก่ผู้เข้าอบรมในครั้งนี้ และเชิญผู้เข้ารับการอบรมเข้าชมและซื้อสินค้าที่ผลิตจากดินภูเขาไฟ รวมทั้งสินค้าที่น่าสนใจอื่น ๆ





เนื่องจากระยะเวลาในการเยี่ยมชมสถานที่ดังกล่าวมีค่อนข้างน้อยประมาณ 30 – 40 นาที เพราะในวันดังกล่าวมีคณะอื่นที่รอเข้าเยี่ยมชมอีกหลายคณะรวมทั้งเด็กนักเรียนชาวญี่ปุ่นซึ่งมาทัศนศึกษาด้วยทำให้ผู้เข้ารับการอบรมไม่สามารถซักถามหรือเยี่ยมชมนิทรรศการในส่วนอื่น ๆ ได้ทั่วถึง และที่สำคัญคือไม่อนุญาตให้ผู้เข้าเยี่ยมชมถ่ายภาพภายในนิทรรศการได้

 จากการดูงานศูนย์จำลองแผ่นดินไหว (FUJINOEKI) ครั้งนี้ ทำให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถนำความรู้ที่ได้มาประยุกต์ใช้กับการใช้ชีวิตในประเทศไทยได้ โดยรัฐบาลควรให้ความสำคัญกับการเกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทย โดยมีการจัดตั้งเทคโนโลยีเป็นแอพพลิเคชั่นไลน์เพื่อแจ้งเตือน หากมีการเกิดแผ่นดินไหวขึ้น โดยจัดให้มีการสอนและฝึกอบรมให้เด็กนักเรียนหรือประชาชนผู้สนใจได้เรียนรู้ว่าหากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวหรือภัยพิบัติอย่างร้ายแรงขึ้นควรต้องปฏิบัติตนอย่างไร รวมทั้งการปฏิบัติตัวเพื่อลดหรือป้องกันการเกิดแผ่นดินไหวหรือภัยพิบัติอื่นที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ขึ้นเพื่อลดความสูญเสียทั้งชีวิต เศรษฐกิจ สังคม ระบบคมนาคม อุตสาหกรรมการเกษตรและการท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อมของประเทศชาติต่อไป












วันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ศึกษาดูงาน Panasonic Center

เมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๑ คณะนักศึกษาตามหลักสูตร " ผู้อำนวยการระดับสูง " โดย สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ไปศึกษาดูงานด้านการบริหารจัดการองค์กรของภาคเอกชน ได้ Panasonic Center ซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงสินค้าของบริษัทพานาโซนิค ของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ ณ ชานกรุงโตเกียว

ตามกำหนดการของวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๑ 

 เวลา ๐๗.๐๐ น. รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

เวลา ๐๘.๐๐ น. ออกเดิทางดูงาน ณ สำนักงาน Panasonic Center Tokyo

เวลา ๑๐.๐๐ - ๑๑.๓๐ น. นำคณะเข้ารับฟังการบรรยายสรุป การบริหารจัดการธุรกิจของ Panasonic และแนวคิดในการพัฒนาเทคโนโลยีเพ่ออนาคต ที่ทันสมัยตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้ในสำนักงาน โดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมและสังคม

เดินทางออกจากโรงแรม Apa Hotel makuhari ไปประมาณ ๒๐ นาที ก็ถึงสถานที่ดังกล่าว พวกเราเดินทางมาถึงก่อนเวลา ที่ญี่ปุ่นจะตรงต่อเวลามาก แม้ไปถึงก่อนเวลาก็เข้าไม่ได้ ต้องรอจนกว่าจถงเวลานัดหมาย



ที่บริเวณจอดรถของบริษัท มีรถบัสของนักเรียนที่มาจากโรงเรียนในญี่ปุ่นมาดูงานจำนวน ๒ คัน มาจอดรอเข้าไปดูงานเช่นกัน น่าจะรอเวลาเข้าไปศึกษาดูงาน เห็นนักเรียน และครูกำลังจัดเตรียกเเอกสารและกระเป๋าต่าง ๆ

เมื่อถึงเวลา คณะของเราได้ให้ัวแทนเข้าไปแจ้งทางบริษัท เพื่อให้ทราบว่ามาจากไหน และมีตัวแทนนำเข้าไปดูงานในบริษัท



ที่บริเวณชั้น ๑ จะเป็นสถานที่แสดงสินค้า มีโซนแยกชัดเจน เกี่ยวกับการศึกษา วัฒนธรรม และโซนแสดงสินค้าที่ล้ำยุค



นอกจากนี้ยังมีห้องที่แนะนำประวัติความเป็นมาของบริษัท และมีวิทยากรนำศึกษาดูงาน โดยเล่าประวัติความเป็นมาของบริษัท สินค้าต่าง ๆ และบริษัทได้เข้ามาสับสนุนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคที่ผ่านมา และปีหน้าที่จะมีการแข่งขันที่ญี่ปุ่นอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีโซนวัฒนธรรม การศึกษา และกีฬา ให้ผู้ที่เข้าดูงานได้ศึกษา





ส่วนชั้น ๒ จะแสดงเกิี่ยวกับสินค้าที่ล้ำสมัย และวิวัฒนาการของการกำเหนิดไฟฟ้า การใช้ไฟฟ้าที่ผ่านมา และการนำระบบไฟฟ้าไปใช้ในอนาคต มีการแสดงสินค้า และระบบการพัฒนาต่าง ๆ




สำหรับชั้น ๓ เป็นพิพิธภัณฑ์และห้องสมุด ซึ่งจะเข้าดูงานได้จะต้องเสียค่าผ่านประตูเข้าไปดูงานพิพิธภัณฑ์ และ ห้องสมุด




 หลังจากวิทยากรได้แนะนำ และพาดูงานแล้ว ได้มีการมอบของที่ระลึกให้กับตัวแทนบริษํท และถ่ายภาพร่วมกัน



 ความเป็นมาของพานาโซนิค

                          พานาโซนิค ถือได้ว่าเป็นแบรนด์เครื่องใช้ฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้พานาโซนิค ผลิตโดยบริษัทมัตสุชิตะ อิเล็คทริค อินดัสเตรียล จำกัด ก่อตั้งขึ้นโดยคุณโคโนสุเกะ มัตสุชิตะ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2461 ณ เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ในระยะแรกเริ่มของธุรกิจผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายส่วนใหญ่เป็นหลอดไฟฉาย และเครื่องทำความร้อนไฟฟ้า เตารีดไฟฟ้า เครื่องรับวิทยุ จากจุดนี้เอง บริษัท จึงได้เริ่มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในเวลาต่อมา
 
เมื่อผลิตภัณฑ์ของบริษัท มีมากขึ้น  และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย บริษัทจึงได้เริ่มใช้เครื่องหมายการค้า “National” กับผลิตภัณฑ์ของบริษัทตั้งแต่ปี 2466 เป็นต้นมา ซึ่งความหมายของ “National” ได้แสดงถึงความตั้งใจที่จะผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ให้แพร่หลายเป็นที่พึงพอใจแก่ผู้บริโภคทุกชนชาติทั่วโลก
 
ปี 2482 บริษัทเริ่มขายธุรกิจในต่างประเทศเป็นครั้งแรก ที่ประเทศจีน สร้างโรงงานผลิตถ่านไฟฉาย ชื่อบริษัท Shanghai Plant of Matsushita Dry Battery

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่นานเริ่มเข้าไปทำสัญญาความร่วมมือด้านเทคโนโลยีกับบริษัท Philips ณ ประเทศเนเธอแลนด์และได้เปิดสำนักงานของบริษัทที่เมือง New York และก่อตั้งบริษัทขายแห่งแรกในต่างประเทศ คือ Matsushita Electric Corporation of America (MECA) ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา
 
ต่อมาบริษัท National Thai เป็นโรงงานแห่งแรกที่ถูกก่อตั้งขึ้นในต่างประเทศ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ณ ประเทศไทย ทำการผลิตผลิตภัณฑ์ถ่านไฟฉาย จากจุดเริ่มต้นการขยายตัวของธุรกิจในต่างประเทศของบริษัททั้ง 2 แห่งนี้ จึงนำมาซึ่งนโยบายการลงทุนดำเนินธุรกิจในต่างประเทศในเวลาต่อมา
 
สำหรับบริษัท พานาโซนิค ซิว เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ชื่อเดิม คือ บริษัท ซิว-เนชั่นแนล เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด ผู้แทนจำหน่ายสินค้ายี่ห้อพานาโซนิค ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2513 โดยร่วมทุนระหว่างบริษัท ซิว จำกัด และบริษัท มัตสุชิตะ อิเล็คทริค อินดัสเตรียล จำกัด ประเทศญี่ปุ่น จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆช่น วิทยุ เครื่องเล่นจานเสียง เครื่องขยายเสียง และเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าอย่างเป็นทางการของบริษัท มัตสุชิตะ อิเล็คทริค อินดัสเตรียล จำกัด ประเทศญี่ปุ่น

นับจากปี 2547 เป็นต้นมา บริษัท มัตสุชิตะ อิเล็คทริค อินดัสเตรียล จำกัด ประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศรวมแบรนด์ Panasonic และ National เพื่อความแข็งแกร่งและเป็นหนึ่งเดียวในการทำการตลาดทั่วโลก โดยให้ National ยังคงมีขายเป็น Traditional Brand ในญี่ปุ่นเท่านั้น (ที่มา - http://www.thaifranchisecenter.com)

วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2561

เที่ยวเขื่อนป่าสัก

เมื่อวนที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๑ ที่ผ่านมา เนื่องในวันแม่แห่งชาติ มีวันหยุดราชการติดกัน ๓ วัน ตั้งแต่วันที่ ๑๑ - ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๑ ได้กำหนดกันไว้ว่าจะกลับไปดูบ้านพักที่จังหวัดนครราชสีมา



ลูกสาวคนโตนจอมวางแผนบอกว่า...อยากเดินทางไปตามเส้นทางกรุงเทพฯ - นครนายก-ปราจีนบุรี -วังน้ำเขียว - นครราชสีมา และอยากแวะเที่ยวเขาแผงม้า นอกจากนั้นยังจะได้แวะทำบุญตามวัดตามรายทางที่รถวิ่งผ่าน

ลูกสาวอีกคนบอกว่า...ช่วงนี้ฝนตก พายุเข้า การเดินทางไปตามเส่นทางดังกล่าว น่าจะอันตราย ไปเส้นทางปกติดีกว่า ปลอดภัยดีจ้ะ

ลูกสาวคนโตบอกว่า...งั้นเราไปแวะเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ดีกว่า น้องหงายังไม่เคยไป...อยากจะเที่ยวลูกเดียว

ส่วนคุณแม่บอกว่า ...น่ากลัวน่ะ ช่วงนี้น้ำจะเต็มเขื่อน กลัวเกิดอันตราย อย่าไปดีกว่าน่ะ ...นี่ก็กลัวเกินเหตุ!!!

เช้าวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๑ จึงเดินทางออกจากบ้านตั้งแต่เวลา ๙.๐๐ นาฬิกา ตามเส้นทางด่วนสายอุดรรัถยา -เข้าบางปะอิน- อยุธยา- สระบุรี -เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ -ปากช่อง -นครราชสีมา





แวะทานข้าวกลางวันที่โลตัสสระบุรี เสร็จแล้ว เดินทางไปตามเส้นทางสระบุรี -เพชรบูรณ์ และแวะเข้าเส้นทางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี



                                                 กราบไหว้ หลวงปู่ป่าสัก

พอถึงปรากฎว่า ดูเงียบเหงา มีคนมาเที่ยวไม่มากมายดั่งที่คิด มีรถรางพานั่งเที่ยวสันเขื่อน ราคาคนละ  ๓๐ บาท ชวนลูก ๆ ขึ้น แต่ไม่มีใครสนใจ

ส่วนน้ำที่เขื่อน ปรากฎว่า น้ำไม่มากดั่งที่คาดหมายไว้ วิว ก็ไม่สวยงามดั่งที่คิด ทำให้ลูก ๆ ผิดหวังกันพอสมควร

หลังจากนั้นพากันถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก และเดินดูสินค้าตามร้านที่วางขาย วันนี้แม้จะเป็นช่วงวันหยุด แต่คนที่มเที่ยวก็ยังไม่มากเท่าไหร่



                                                        ประวัติเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

น่าแปลกใจว่า...คนเขาไปเที่ยวที่ไหนกันหมด ร้านค้าดูซบเซา ค้าขายไม่ค่อยดี มีเวลาเชิญมาเที่ยวกันครับ!!!

จะเห็นว่าที่แต่ละคนกังวลกันมา แต่เหตุการณ์จริงมิได้เป็นดั่งที่คิดเลย..ความกังวล คือความทุกข์จ้า

วันพุธที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2561

โครงการตักบาตรและถวายผ้าป่าสามัคคี

๘ สิงหาคม ๒๕๖๑ เข้าร่วมพิธีตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง และถวายผ้าป่าสามัคคี ของสำนักงานอัยการสูงสุด โดยสำนักงานคดีภาษีอากร เป็นเจ้าภาพหลัก โดยมีท่านรองอัยการสูงสุด เป็นประธานในพิธี ณ ห้อง ๑๒๐ ปี สำนักงานอยการสูงสุด


                                       พระราชวิสุทธิประชานารถ(หลวงพ่ออลงกต ติกขปัญโญ)

โครงการดังกล่าว ได้ดำเนินการมานานกว่า ๑๐ ปี แล้ว โดยอาราธนาพระราชวิสุทธิประชานารถ (หลวงพ่ออลงกต ติกขปัญโญ) เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี มาปีละ ๒ ครั้งโดยครั้งที่  ๑ ได้จัดโครงการไปแล้วในช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่ผ่านมา และครั้งที่ ๒ จัดในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา โดยปีนี้ได้เลื่อนมาเป็นวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๑ วันนี้



                                          ต้นผ้าป่าสามัคคีจากอาคารต่าง จำนวน ๘ อาคาร

กิจกรรมดังกล่าว ประกอบด้วยการตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง และของใช้ต่าง ๆ ที่ใช้สำหรับผู้ป่วยโรคเอดส์ เด็ก และคนชรา และมีการถวายผ้าป่าสามัคคี ด้วย

ปีนี้ มีกองผ้าป่าจำนวน ๙ ต้น จากอาคารต่าง ๆ ได้แก่ อาคารแจ้งวัฒนะ รัชดาภิเษก กรุงเทพใต้ อาญาธนบุรี ตลิ่งชัน มีนบุรี พระโขนง และอาคารหลักเมือง และอีกต้นเป็นสำนักงานคดีภาษีอากร



วัดพระบาทน้ำพุ เป็นสถานที่รับรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอดส์ ปัจจุบันมีจำนวน ๑,๗๐๐ กว่าคน มีคนชราประมาณ ๔๐ -๕๐ คน และเด็กจำนวนประมาณ ๓๐๐ คน นอกจากนี้หลวงพ่อยังเลี้ยววัว ควาย สุนัขจรจัด และลิงอีกจำนวนมาก

ในแต่ละเดือนทางวัดจะต้องมีค่าใช้จ่ายค่าอาหาร ค่าไฟฟ้า ประปา ค่ายา และเครื่องนุ่งห่ม ให้กับผู้ป่วย คนชรา และเด็กจำนวนกว่า ๒,๐๐๐ คนดังกล่าว มีค่าใช้จ่ายตกประมาณ ๔ ล้านบาท/เดือน นับว่าเป็นภาระหนักของหลวงพ่อเป็นอย่างมาก






                                                           ทำหน้ารที่พิธีกรในพิธีดังกล่าว

วันนี้ นอกจากหลวงพ่ออลงกต ท่านจะมารับบิณทบาตที่อาคารสำนักงานอัยการสูงสุด แล้วจะต้องเดินทางไปประธานพิธีทำบุญประจำปี ของห้างพันธ์ทิพย์พล่าซ่า สาขาประตู้น้ำ เสร็จแล้วในช่วงบ่ายจะต้องเดินทางไปออกอากาศถ่ายทอดสด ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ช่อง ๑๑ (NBT)  และช่วงเย็นจัดกิจจกรรมสวดมนต์ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จนถึงเวลา ๒๐.๐๐ นาฬิกาจึง เดินทางกลับวัดพระบาทน้ำพุ

นอกจากนี้หลวงพ่ออลงกต ยังมีรายการทางสถานีวิทยุ และโทรทัศน์อีกจำนวนมาก เท่าที่จำได้ มี ดังนี้

- วันอังคาร : รายการรักมนุษย์ ทางสถานวีโทรทัศน์ช่อง ๑๑ ( NBT) เวลาบ่ายโมง

-วันพุธ :  รายการ "ใจฟ้า" ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง ๑๑ (NBT) เวลา ๑๔.๐๐ นาฬิกา

- วันพฤหัสบดี : รายการ " หัวใจสีขาว " ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง ๑๑ (NBT) เวลา ๐๘.๐๐ - ๐๘.๑๕  นาฬิกา

- วันเสาร์ : รายการ " ธรรมส่องใจ " สถานีวิทยุและโทรทัศน์ของวัดสังฆทาน  เวลาบ่ายโมง

- วันอาทิตย์ : รายการ " เชียร์ไทย " ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง ๑๑ (NBT) เวลาช่วงเช้าตั้งแต่เวลา  ๐๕๐๐ ๐๖.๐๐ นาฬิกา




                                              ข้าวสาร และอาหารแห้ง ที่นำมาถวายในวันนี้

และนอกจากนี้ทุกวันพุธในช่วงเย็น มีกิจกรรมสวดมนต์ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นประจำตลอดมา
หากท่านใดมีเวลา และโอกาส ก็สามารถเข้าร่วมกิจกรรม และเข้าชมรายการดังกล่าวได้

ขออนุโมนาบุญกับทุกท่านมา ณ โอกาสนี้ครับ !!!

วันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2561

โครงการปฏิบัติธรรมวันอาทิตย์

๕ สิงหาคม ๒๕๖๑ ได้ร่วมปฏิบัติธรรม ตามโครงการปฏิบัติธรรมประจำวันอาทิตย์ เป็นปี่ที่ ๕ ณ คณะ ๑๔ วัดชนะสงคราม  กรุงเทพมหานคร



วันนี้ ได้เข้าร่วมโครงการอีกครั้งหนึ่ง หลังจากห่างหายไปหลายอาทิตย์ เนื่องจากมีกิจธุระด้านอื่น ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ตั้งใจจะพยายามไปร่วมปฏิบัติให้ได้ทุกอาทิตย์



นอกจากนี้ ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา จะตั้งปณิธานว่า..จะเข้าร่วมสวดมนต์เย็นทุกวันวันพระ..ซึ่งเคยตั้งปณิธานมาหลายปีแล้ว แต่ก็ทำไม่สำเร็จทุกปี

การปฏิบัติธรรมในวันนี้ เริ่มนั่ง เป็นเวลา ๑ ชั่วโมง จิตใจยังสับส่าย คิดออกไปข้างนอกบ่อยครั้ง พยายามดึงกลับเข้ามาภายใน เพื่อให้จิตรวมเป็นหนึ่ง

สังขารก็เริ่มปวดตามขา และหลัง ซ่งจะเป็นปกติทุกครั้งที่ผ่านมา พยายามจะเอาชนะความเจ็บของสังขารดังกล่าว สามารถนั่งได้ครบ ๑ ชั่วโมง

หลังจากนั้นเปลี่ยนอิริยาบถ เดินจงกรม เป็นเวลา ๑ ชั่วโมง การเดินจงกรม สมาธิจะมั่นคงและอยู่นานมากdว่า ทำให้จิตไม่วอกแวก และส่งออกไปข้างนอก จิตจะจับอยู่ที่คำภาวนา และการก้าวเดินแต่ละก้าว ทำให้ร่างกายผ่อนคลาย ไม่ปวดมาก แม้จะมีอาการเจ็บที่ฝ่าเท้าบ้างก็ตาม แต่ก็ไม่ปวดเท่าการนั่งภาวนา พอเดินไปได้ระยะหนึ่ง มีเหงือนเริ่มไหลตามร่างกาย และขาจะเริ่มมีอาการปวด ก็พยายามสู้ต่อไป สักพักหนึ่งอาการก็จะเริ่มหาย และเดินจงกรม ได้เป็นเวลา ๑ ชั่วโมงตามที่กำหนด



ต่อจากนั้น ได้เปลี่ยนอิริยาบถ นั่งภาวนาอีกครั้ง กำหนดไว้จำนวน ๑ ชั่วโมง ปรากฎว่า จิตเข้าสมาธิได้รวดเร็วมาก อาจจะมีผลจากการการเดินจงกรมนั่นเอง มินาล่ะ... พระอาจารย์ถึงให้เดินจงกรมก่อน ค่อยมานั่งภาวนา...ทำให้เพิ่งรู้เดี่ยวนี่เอง

เมื่อปฏิบัิครบแล้ว พระอาจารย์ก็จะนำสวดมนต์เย็น และสาธยายบทอานาปานสติ และแผ่บุญกุศล ให้กับสรรพสัตย์ เป็นอันเสร็จพิธี



โครงการปฏิบัติธรรมประจำวันอาวิทตย์ จะมีทุกอาทิตย์ ท่านใดที่สนใจจะเข้าร่วมปฏิบัติ สามาระเข้าร่วมได้ ณ คณะ ๑๔ วัดชนะสงคราม บางลำภู กรุงเทพมหานคร ส่วนวนอาทิตย์ที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๑ หยุด ๑ วัด เนื่องจากเป็นวันแม่แห่งชาติ!!!

ทำบุญประจำเดือน

๕ สิงหาคม ๒๕๖๑ ชมรมชาวอีสานล้านช้าง ร่วมกันทำบุญและถวายภัตตาหารแด่พระภิกษูสงฆ์ ประจำเดือนสิงหาคม ๒๕๖๑ ณ คณะ ๑๔ วัดชนะสงคราม บางลำภู กรุงเทพมหานคร

พิธีทำบุญดังกล่าว เป็นกิจกรรมที่ชมรมชาวอีสานล้านช้าง ได้ปฏิบัติกันมานานกว่า ๑๐ ปีแล้ว โดยร่วมกันจัดกิจกรรมทำบุญประจำเดือน เป็นประจำทุกเดือน





ปีก่อน ๆ จะมีการหมุนเวียนไปตามทำบุญที่วัดต่าง ๆ ไม่ว่าจะวัดเอี่ยมวรนุช หรือ วัดชนะสงคราม ตามแต่จะสะดวก หรือเหมาะสม

มาในปีนี้ จะจัดกิจกรรมกันที่ คณะ ๑๔ วัดชนะสงคราม บางลำภู กรุงเทพมหานคร เป็นหลัก เนื่องจากการเดินทางไป - มา  และสถานที่มีความสะดวกกว่าที่อื่น

วันนี้ คณะญาติโยม มาพร้อมกันจัดเตรียมอาหาร และคาวหวาน นอกจากนั้น ทุกคนก็จะเตรียมภัตตาหารของแต่ละคน นำมาถวาย



นอกจากนี้ ก็จะมีแม่ครัวที่ทำอาหารเป็นหลักไว้ โดยเฉพาะอาหารพื้นบ้านอีกสาน ได้แก่ ส้มตำ แกงหน่อไม้ แกงขี้เหล็ก น้ำพริก เป็นต้น

หลังจากนั้น จะร่วมกันกราบพระรัตนตรัย รับศีล พระสงฆ์ก็จะสวดถวายพระพร และทำพิธีถวายภัตตาหาร ตามลำดับ เสร็จพิธีแล้ว ก็จะได้รับประทานอาหารร่วมกัน




พิเศษในวันนี้ เนื่องจากเป็นเทศกาลช่วงวันแม่แห่งชาติ จึงได้ร่วมกัน ทำพิธีไหว้และขอขมาคุณแม่ ซึ่งเป็นคุณแม่ที่มีอายุมากที่สุด จะเข้า ๙๐ ปีแล้ว ที่มาร่วมทำบุญเป็นประจำ และเป็นหลักให้กับชมรมชาวอีสานล้านช้าง ตลอดมา และขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ!!!


ทำพิธีขอขมาคุณแม่


                                   ได้ร่วมกันถวายผ้าอาบน้ำฝน และเทียนพรรษา ในครั้งนี้ด้วย





                                                              ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก



                                                              อนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ