วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2563

พระธาตุพนม

          พระธาตุพนม ถือว่าเป็นพระธาตุที่เก่าแก่ คู่บ้านคูเมืองของชาวอีสานและชาวลาว มาตั้งแต่ครั้งโบราณ หากใครได้มีโอกาสไปกราบสักการะสักครั้งในชีวิต ก็จะเป็นบุญตาและเป็นสิริมงคลของชีวิตเป็นอย่างยิ่ง คุณยายที่บ้านเคยบ่นอยากไปกราบสักการะสักครั้ง ลูกหลานจะพาไป แต่ไม่พาไปสักที จนปัจจุบันคุณยายอายุปาเข้า ๘๐ กว่าปีแล้ว ยังไม่ได้กราบสักการะสักครา


        พระธาตุพนม เป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์ของภาคอีสาน ประดิษฐานบนเนินที่เรียกว่าภูกำพร้า ปัจจุบันเป็นบริเวณวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อยู่ห่างจากตัวเมืองนครพนมราว 52 กิโลเมตร พระธาตุพนมสร้างขึ้นแต่สมัยอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ ประมาณ พ.ศ. 8 โดยเจ้าเมือง 5 องค์คือ พระยาสุวรรณภิงคารนะ พระยาคำแดง พระยาอินทปัตถะนคร พระยาจุลนีพรหมทัต และพระยานันทเสน เพื่อบรรจุพระอุงรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก) ของพระพุทธเจ้า

 ลักษณะพระเจดีย์เป็นเจดีย์ทรงบัวเหลี่ยม หรือทรงแจกัน ก่อด้วยอิฐมีลวดลายจำหลักลงไปในแผ่นอิฐ มีซุ้มคั่นด้านละซุ้ม ซ้อมกัน 3 ชั้น ลดหลั่นกันลงมาอย่างวิจิตร 


พระธาตุพนมได้รับการบูรณะเรื่อยมาตามกาลเวลา และในวันที่ 11 สิงหาคม 2518 องค์พระธาตุพนมได้หักโค่นลง ประชาชนชาวไทยทั่วทั้งประเทศได้ร่วมกันสละทุนทรัพย์ก่อสร้างขึ้นใหม่ และมีพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นบรรจุอีกครั้งในวันที่ 23 มีนาคม 2522 

นอกจากนั้นยังมีทรัพย์สมบัติอีกหลายหมื่นชิ้นที่ชาวไทยถวายบรรจุไว้เป็นพุทธบูชา เฉพาะยอดฉัตรทองคำมีน้ำหนักถึง 110 กิโลกรัม องค์พระธาตุพนมนอกจากจะเป็นศูนย์รวมจิตใจของชนชาวพุทธแล้ว รูปแบบการก่อสร้างขององค์พระธาตุพนมยังเป็นต้นแบบให้กับการก่อสร้างพุทธเจดีย์ในภาคอีสานและในลาวอีกมากมายหลายแห่ง

ประเพณีนมัสการพระธาตุพนม เป็นประเพณีประจำปีสมโภชองค์พระธาตุพนมปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์ของประชาชนไทยลาวสองฟากฝั่งโขง

ในวันงานประเพณีประชาชนจากทุกสารทิศทั่วอีสานของไทย และชาวลาวฟากตรงข้ามต่างเดินทางกันมาร่วมพิธีกรรมมากมายมืดฟ้ามัวดิน การมหรสพสมโภชคึกคักสนุกสนานจัดเป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคอีสานงานหนึ่ง

วันเวลาจัดพิธีกรรม
วันขึ้น 12 ค่ำ ถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี

รูปแบบประเพณี

ในวันขึ้น 12 ค่ำ ต่อวันแรม 1 ค่ำ พุทธศาสนิกชนจะแต่งกายชุดขาวไปกราบไหว้นมัสการองค์พระธาตุพนม และถือศีลปฏิบัติธรรมที่วัดตลอด 5 วัน ในวันขึ้น 15 ค่ำ ซึ่งเป็นวันวิสาขะ ชาวบ้านจะเวียนเทียนรอบองค์พระกันอย่างคับคั่ง และในวันรุ่งขึ้นแรม 1 ค่ำ จะมีการรำบูชาองค์พระธาตุพนมจากชุมชนต่าง ๆ ในจังหวัดนครพนมถ้วนหน้า

จุดเด่นของพิธีกรรม
คือการรำบวงสรวงองค์พระธาตุพนม โดยกลุ่มชาวพื้นเมืองหลากหลายของจังหวัดนครพนม โดยเฉพาะชาวผู้ไทเรณูนครที่มีกระบวนฟ้อนเรณูที่สวยงามอย่างยิ่งที่จะมาอวดลีลาการร่ายรำอันยอดเยี่ยมชนิดหาชมที่ใดอีกไม่ได้ นอกจากนั้นกลุ่มชาวไทยย้อ จากอำเภอท่าอุเทน ชาวบ้านธาตุและชาวอำเภอเมืองก็จะจัดกระบวนรำมาประกวดประชันกันเป็นพิเศษ (จาก...https://www.ku.ac.th/e-magazine)




เมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๒ ที่ผ่านมา ไม่ได้นึกฝันมาก่อน ว่าจะได้มีโอกาสมากราบสักการะพระธาตุพนม หลังจากที่เคยไปกราบไหว้มาแล้ว สมัยที่เคยย้ายไปปฏิบัติงานที่จังหวัดอำนาจเจริญ ประมาณปี พ.ศ.๒๕๔๔

ในการมากราบไหว้ครั้งนี้ ได้ร่วมเดินทางมาตรวจราชการกับท่านผู้ตรวจการอัยการ ได้รับความอนุเคราะห์จากคณะข้าราชการในพื้นที่ ได้ทำพิธีถวายผ้าห่มองค์พระธาตุ โดยมีการจารึกชื่อไว้ในผืนผ้า เสร็จแล้วนำมาถวายพระสงฆ์ ซึ่งได้พานำกล่าวคำถวายผ้าห่มองค์พระธาตุ เสร็จแล้วได้นำพาคณะเวียนประทักษิณรอบองค์พระธาตุพนม จำนวน  ๓ รอบ



ในการเวียนประทักษิณดังกล่าว รอบแรกพระคุณเจ้าได้นำสวดบทพระพุทธคุณ รอบที่ ๒ นำสวดบทพระธรรมคุณ และรอบที่ ๓ นำสวดบทพระสังฆคุณ เสร็จแล้ว ได้นำผ้าห่มรอบองค์พระธาตุพนม เป็นอันเสร็จพิธี

นอกจากนี้ยังได้มีโอกาสเข้าไปบรเิวณด้านใน ซึ่งตามปกติแล้วจะเป็นเขตหวงห้าม เข้าไปได้เฉพาะที่ได้รับอนุญาตเท่านั่น โดยเดินเวียนปทักษิณ ๓ รอบ และบันไดไต่ขึ้นไปบนยอดของพระธาตุเจดีย์ด้วย ล้อมรอบพระธาตุ จะมีพระพุทธรูป และวัตถุมงคลจำนวนมากมายที่มีผู้มีจิตศรัทธานำมาถวายและวางล้อมรอบองค์พระธาตุ








นับว่าเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และเป็นโอกาสอันดีที่ได้มีโอกาสได้มากราบสักการะในครั้งนี้ ขอกราบขอบพระคุณท่านผู้ตจรวจการอัยการ และคณะข้าราชการทุกท่านที่ได้ให้ความอนุเคราะห์ และขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านมา ณ โอกาสนี้



ดูสถานที่สร้างวัด

เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๖๓ ที่ผ่านมา พระอาจารย์มหาใจ เขมจิตโต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดชนะสงครามวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร ได้นำพาญาติโยมเดินทางไปที่อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี เพื่อไปดูสถานที่สำหรับการก่อตั้งสำนักปฏิบัติธรรม


พระอาจารย์ท่านปรารภมาตลอดเวลาว่า อยากได้สถานที่เพื่อจัดตั้งสำนักปฏิบัติธรรมเป็นของตนเอง สถานที่ควรไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร มากนัก พื้นที่ท่านชอบมากที่สุด และพูดถึงอยู่บ่อย ๆ คือ พื้นที่แถวบริเวณเขาใหญ่ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

ผู้เขียนได้เรียนให้ท่านได้ทราบว่า สถานที่บริเวณดังกล่าว ราคาแพงและเป็นที่นิยมของผู้มีฐานะร่ำรวย ส่วนมากจะไปซื้อไว้ปลูกบ้านพักส่วนตัว หรือรีสอร์ท ไว้พักในช่วงพักร้อนหรือช่วงฤดูหนาว การที่จะที่ดินบริเวณดังกล่าว จึงค่อนข้างจะหายาก เว้นแต่จะมีผู้บริจาคเท่านั่น

เท่าที่ทราบได้ข่าวว่า มีโยมบริจาคที่ดินให้ท่านแล้วจำนวน ๒ แปลง แปลงที่ตั้งอยู่ที่จังหวัดหนองคาย และแปลงที่ ๒ คือสถานที่ที่จะไปดูในครั้งนี้
ออกเดินทางตั้งแต่เวลาหกโมงเช้า โดยเช้่ารถตู้จำนวน ๑ คัน มีโยมเดินทางไปด้วยรวมจำนวน ๖ ท่าน ไปตามเส้นทางถนนบรมราชีนี -ผ่านจังหวัดนครปฐม - เข้าราชบุรี และได้แวะไปที่บ้านพักของเจ้าที่ดินที่จะบริจาคในครั้งนี้






หลังจากพักผ่อนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเจ้าของที่ดินที่จะบริจาค ได้นำพาไปยังสถานที่ดังกล่าว โดยไปตามเส้นทางราชบุรี -จอมบึง ปรากฎว่า เป็นวันที่มีการจัด "จอมบึงมาราธอน " ด้วย มีการปิดถนน ต้องขับรถอ้อมไปทางอื่น ทำให้เสียเวลาและหลงทาง

ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็เดินทางไปถึงบริเวณสถานที่ที่ดินดังกล่าว ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 150 เมตร ที่ดินมีเนื้อที่ประมาณ ๑๕ ไร่ ในช่วงนี้ให้คนอื่นเช่าปลูกมันสำปะหลั่ง และข้าวโพด มีการจัดทำถนนล้อมรอบที่ดินไว้เรียบเร้อย มุมด้านทิศใต้และตะวันออก มีการขุดสระน้ำไว้เป็นที่เรียบร้อย เพื่อใช้ในการรดต้นไม้ และใช้สอยต่าง ๆ

หากดูสถานที่แล้ว ก็มีความเหมาะสมที่จะจัดตั้งสำนักปฏิับัติธรรมได้ คงต้องใช้เวลาในการปลูกตนใหม้ การปรับปรุงพื้นที่อีกระยะหนึ่ง นอกจากนี้จะต้องมีการก่อสร้างกุฎิ ศาลา ห้องน้ำ และที่พักปฏิบัติธรรมอีกหลายส่วน

หากดูดินแล้ว จะมีความแห้งแล้งอยู่บ้าง ที่ดินมีหินปนทราย แต่ดูต้นไม้ และต้นมะพร้าว มะม่วง และมะนาว จะเห็นว่า ต้นไม้เขียวชะอุ่ม ผลหมกรากไม้ก็บริบูรณ์ดี น้ำที่อยู่ในสระน้ำก็มีเต็มพื้นที่ แสดงว่าที่ดินมีความสมบูรณ์ในการที่จะปลูกต้นไม้และพืชผักได้






นอกจากนี้ ยังได้มีการปลูกต้นโพธิ์ไว้เป็นท่ี่ระลึกบริเวณปากทางที่จะเข้าสู่ที่ดินจำนวน ๑ ต้น และต้นหมากอีกจำนวน ๑ ต้น

พระอาจารย์บอกว่า หากยังไม่มีการก่อสร้าง ให้ปลูกต้นโพธิ์ไว้บริเวณปากทางเข้า หากมีการก่อสร้างจะต้องนำต้นโพธิ์ไปปลูกที่บริเวณตรงกลางพื้นที่

ต้องอนุโมใทนาบุญกับท่านเจ้าของที่ดิน ทีมีจิตศรัทธาที่จะบริจาคให้กับพระพุทธศาสนาในครั้งนี้ครับ !!!






                                                   พระอาจารย์และญาติโยมตรวจดูสถานที่