วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ทอดกฐิน...บ้านโคกก่อง

เมื่อวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๑ ได้เดินทางออกจากบ้านพักเวลา ๐๔.๐๐ นาฬิกา โดยลูกสาวได้ขับรถไปส่งที่วัดชนะสงครามวรมหาวิหาร เขตบางลำภู กรุงเทพฯ โดยวันนี้มีกำหนดเดินทางไปทอดกฐืนสามัคคี ที่วัดโพธิ์สาลิการาม บ้านโนนค้อ  ตำบลโคกงาม อำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น


                                                        อุโบสถไม้สักและไม้จะบกที่สวยงามมาก






ถึงวัดปรากฎว่ามีญาติธรรมบางส่วนยืนรออยู่แล้ว และพระคุณเจ้าได้นำบริขารกฐินต่าง ๆ มากองรอรถมารับ ได้ทราบว่านัดรถบัสเวลา ๐๔.๓๐ นาฬิกา แต่ไม่ตรงเวลาที่กำหนด สักพักรถได้เดินทางมาถึง แต่มีปัญหาไม่สามารถนำรถเข้ามายังบริเวณวัดได้ เนื่องจากติดประตูที่เก็บบัตร ญาติธรรม และสามเณรจึงได้ช่วยกันขนบริขารกฐินมาขึ้นรถกัน

รถบัสคันที่มารับ มีปัญหาอีก เนื่องจากไม่ใช่คันที่ตกลงกันไว้ตามสัญญา ไม่มีที่ว่างพอสำหรับวางสิ่งของ ไม่ที่นั่งเพียงพสำหรับญาติโยมที่ไปในครั้งนี้ มีพระเณรจำนวน ๑๓ รูป และญาติโยมอีก ๒๑ คน รวม ๓๔ คน แต่รถมีที่นั่งจำนวน ๓๕ ที่นั่ง ด้านล่างของรถไม่ที่เพียงพอในการบรรทุกสิ่งของ ต้องนำบริขารกฐินบางส่วนมาวางไว้ข้างบน ทำให้รถแน่นขนัด บางที่นั่งก็ต้องนั่งซ้อนกัน


                                                          รถเครื่องเสียงในการนำแห่องค์กฐิน




รถออกจากวัดเวลา ๐๕.๓๐ นาฬิกา ช้ากว่าเวลาที่กำหนด เดินทางออกจากวัดไปขึ้นทางด่วนยมราช - ต่อโทรเวย์-บางปะอิน-อยุธยา แวะรับประทานอาหารเช้าแถววังน้อย เสร็จแล้วเดินทางต่อไปผ่านสระบุรี-ปากช่อง-โคราช-บ้านไผ่ และแวะรับญาติโยมที่อำเภอพล-ขอนแก่น-บ้านฝาง ถึงเวลาประมาณ๑๕.๓๐ นาฬิกา ใช้เวลาเดินทางกว่า ๑๐ ชั่วโมง

การเดินทางในครั้งนี้ ทำให้หลงทางเช่นกัน เนื่องจากทุกคนไท่เคยมาที่วัดดังกล่าว ต้องสอบถามทางและใช้จีพีเอส นำทางไปตลอดเส้นทาง ตั้งแต่ออกจากตัวเมืองจังหวัดขอนแก่น





ตามกำหนดการที่นัดกันไว้จะถึงวัดเวลาประมาณเวลา ๑๓.๓๐ นาฬิกา หลังรับประทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว ต้องแห่องค์กฐินรอบหมู่บ้านอีก ๑ รอบ ปรากฎว่า มาถึงเลเวลาที่กำหนด จึงได้เริ่มแห่องค์กฐินเวล่าประมาณ ๑๖.๓๐ นาฬิกา โดยมีรถเครื่องเสียงและรถบิ๊คอัพนำกระบวน ชาวบ้านมีความสุขกันในการแห่ครั้งนี้ ได้มีการฟ้อนรำและเต้นกันอย่างสนุกสนาน






หลังจากแห่เสร็จแล้ว มีการเจริญพระพุทธมนต์ฉลององค์กฐิน และเทศนา ๑ กัณฑ์ ในเรื่อง อานิสงค์ของการทอดกฐินจากพระอาจารย์จากวัดธาตุ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เสร็จแล้วมีหมอลำกลอน จากจังหวัดมหาสารคาม มาแสดงฉลองกฐินในครั้งนี้







ช่วงเช้า มีการทำบุญตักบาตร และแห่องค์กฐินรอบอุโบสถจำนวน ๓ รอบ เสร็จแล้ว ได้ทำการทอดกฐิน โดยพระอาจารย์มหาใจ เขมจิตโต (ปธ.๙) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม เป็นประธานในครั้งนี้ และได้ยอดเงินที่นำถวายวัดเป็นจำนวน ๒๑๐,๙๘๐ .-บาท และขออนุโมทนาบุญกับทุกท่าน










                                        แสงพระอาทิตย์ในช่วงที่แห่องค์กฐินรอบหมู่บ้าน


วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2561

เที่ยว...เรือหลวงจักรีนฤเบศ

ลูกสาวอยากไปเที่ยวชมเรือหลวงจักรีนฤเบศ ที่สัตหีบ จังหวัดระยอง มานานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้พาไปสักที


ปีนี้ทางสำนักงานฯได้กำหนดจัดงานวันเกษียณอายุให้กับข้าราชการธุรการในวันที่ ๘ - ๙ กันยายน ๒๕๖๑ ที่พัทยา ชลบุรี จึงวางแผนที่จะพาครอบครัวไปแวะเที่ยวที่เรือหลวงจักรีนฤเบศในครั้งนี้

โดยออกเดินทางช่วงเช้าวันที่ ๘ กันยายน ๒๕๖๑ ไปตามเส้นทางด่วนบางปะอิน -พระราม ๙ เข้ามอเตอร์เวย์ไปเส้นชลบุรี -พัทยา และวิ่งไปตามถนนสุขุมวิท สายเก่า ถึงสามแยก แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปยังกองเรือยุทธการ

วันนี้เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ จึงมีนักท่องเที่ยวมาเป็นจำนวนมาก สถานที่จอดรถกว้างขวาง มีฝนตกลงมาตลอดทาง คิดว่าคงจะไม่สะดวกในการเข้าชมเรือ แต่พอมาถึงสถานที่ท่าเทียบเรือ ปรากฎว่าฝนตกเล็กน้อย ต้องนร่มออกมาใช้ในการเดิทางเข้าไปชมเรือ


มีการจัดทางเดิน และเข้าแถวตามคิว มีการตรวจและขอดูบัตรประจำประชาชนก่อนอนุญาตให้เข้าชม และการจัดช่องทางในการเข้า - ออก ในการเข้าชมในครั้งนี้

ด้านมีบริเวณกว้างขวาง มีร้านค้าขายของที่ระลึก มีบันไดเดินเข้าไปในตัวเรือแต่ละชั้น ช่องทางเดินจะแคบมาก คนที่ตัวใหญ่อาจจะเข้าไปดูลำบากหน่อย

ส่วนที่สวยที่สุดคือชั้นดาดฟ้า ทำให้เราได้มองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงาม มีลานที่จอดของเครื่องบิน มีนักท่องเที่ยวถ่ายรูปกันเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางฝนตกลงมาบาง ๆ ทำให้อากาศเย็นสบาย

หากมีเวลามาเที่ยวแถวจังหวัดระยอง ก็ไม่ควรพลาด ควรจะพาครอบครัว และลูก ๆ มาเที่ยวชม จะเห็นความยิ่งใหญ่ของเรือหลวงจักรีนฤเบศ ครับ !!!

เรือหลวงจักรีนฤเบศร เป็นเรือรบขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ที่ท่าเรือน้ำลึกจุกเสม็ด ติดกับหาดนางรำ ได้รับพระราชทานชื่อจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า “จักรีนฤเบศร” หมายถึง ผู้ยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์จักรี และใช้คำขวัญว่า “ครองเวหา ครองนที จักรีนฤเบศร” มีรหัสประจำเรือ 911 เรือหลวงจักรีนฤเบศรเป็นเรือที่ต่อในประเทศสเปน ในปี 2537 ทำการซื้อแบบรัฐต่อรัฐในราคา 7,100 ล้านบาท เรือลำนี้มีทั้งหมด 11 ชั้น มีความยาว 182 เมตร กว้าง 30.5 เมตร เป็นเรือที่มียุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย มีระบบเรดาร์ตรวจการณ์ระยะไกล บรรทุกอากาศยานได้เป็นลำแรก และ ลำเดียวของประเทศไทย
ภารกิจของเรือหลวงจักรีนฤเบศร
มีภารกิจที่สำคัญในยามสงคราม ทำหน้าที่เป็นเรือธง ควบคุมและบังคับบัญชากองเรือในทะเลทั้งหมด และยังเป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน ควบคุมการปฏิบัติการป้องกันภัยทางอากาศอีกด้วย นอกเหนือจากภารกิจด้านความมั่นคงของชาติแล้ว เรือหลวงจักรีนฤเบศรยังทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเวลาที่มีภัยพิบัติทั้งฝั่งอ่าวไทย และ ฝั่งอันดามัน เช่น ตอนเกิดเหตุพายุไต้ฝุ่นซีตาห์, พายุไต้ฝุ่นลินดา, เหตุการณ์น้ำท่วมจังหวัดสงขลา, ภัยพิบัติคลื่นสึนามิภาคใต้, น้ำท่วมใหญ่ปี 2553
ในช่วงเวลาปกติที่ไม่มีภัยสงคราม ภัยพิบัติ เรือหลวงจักรีนฤเบศร จะจอดพักอยู่ที่ท่าเรือน้ำลึกจุกเสม็ด สัตหีบ ให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจได้เข้าชม
ลักษณะจำเพาะของเรือหลวงจักรีนฤเบศร
  • เป็นเรือบรรทุกอากาศยานขนาดเล็กที่สุดในโลก โดยจำลองแบบมาจากเรือ ปรินซีเปเดอัสตูเรียส (Principe de Asturias) ของสเปน
  • ขนาดกว้าง x ยาว สูงสุด : 182.6 x 30.5 เมตร
  • เครื่องยนต์ : ดีเซล 11,780 แรงม้า และ แก๊สเทอร์ไบน์ 44,250 แรงม้า
  • ความเร็วสูงสุด : 27 knot หรือประมาณ 50 km/h
  • ความสูงถึงดาดฟ้าบิน : 18.5 เมตร
  • ลูกเรือ (ทหารประจำเรือ และ ทหารประจำหน่วยบิน) : 597 คน
  • ห้องปฏิบัติงานและห้องพัก : รวมกว่า 600 ห้อง
  • ความสามารถในการบรรทุกอากาศยาน : เฮลิคอปเตอร์ 14 ลำ หรือ เครื่องบินขึ้นลงทางดิ่ง 12 ลำ





                                                            ถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก

วันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ทำบุญและเที่ยวตลาดน้ำวัดตะเคียน

การทำบุญ เป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิต เพราะบุญจะทำให้เรามีจิตใจเยือกเย็น สะอาด สว่าง สงบ พบกับความสุขสบาย ส่งผลใ้ห้การกระทำทางกายเป็นไปในทางปกติสุขนั่นเอง เมื่อการกระทำในสิงที่ดีย่อมส่งผลให้สุขภาพจิตและสุขภาพกายดีตามมาด้วย ส่งผลให้ครอบครัวและสังคมอยู่เย็นเป็นสุข สงบ ร่มเย็นด้วยประการฉะนี้

วันอาทิตย์ที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๑ ที่ผ่านมา ภรรยาอยากไปทำบุญและสะเดาะเคราะห์ให้กับตัวเอง จึงชักชวนลูก ๆ พาไปวัด ได้เสนอแนะว่า...ควรไปทำบุญที่วัดตะเคียน ที่วัดมีตลาดน้ำด้วย หิวมาก็หาอะไรทานได้ ไม่ต้องยุ่งยาก

นัดแนะลูกสาวไว้ว่า...ให้ตื่นแต่เช้า พาคุณแม่ไปทำบุญที่วัดตะเคียนด้วย..ลูกสาวตกลง และหาแผนที่สถานที่ตั้งของวัดว่าอยูที่ใด..เห็นเพื่อนบอกว่า..ไปทางพระราม ๕ - ไปเลี่ยวกลับรถที่ถนนกาญจนาพิเษก-วัดอยู่ทางด้านขวามือ มีถนนเข้าไปถึงวัด

พอถึงเวลาก็ออกเดินทางไปตามเส้นทางกรุงเทพฯ-นนทบุรี-เลี้ยวขวาเข้าถนนนครอินทร์-ข้ามสะพานพระราม ๕ -ข้ามสะพานถนนราชพฤกษ์-ข้ามสะพานถนนวงแหวน-เลี้ยวกลับใต้สะพานข้ามถนนกาญจนาภิเษก- ดูป้ายบอกว่า ๑๕๐ เมตร ถึงทางเข้าตลาดน้ำวัดตะเคียน ตำบลบางคูเวียง อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

                                          ปิดทองหลวงปู่แย้ม  อดีตเจ้าอาวาสวัดตะเคียน

ในช่วงที่เดินทางไป อยู่ในช่วงมีการปรับปรุงและก่อสร้างถนนทางเข้าวัดพอดี ทำให้รถติดยาวเหยียด เนื่องจากมีการปล่อยให้รถวิ่งทางเดียว ทำให้เสียเวลาไปบ้างเล็กน้อย

ถึงวัดแล้ว ปรากฎว่า..มีรถยนต์จอดจำนวนมากมาย แหม่!!! ไม่นึกว่าจะมีคนมามากขนาดนี้ ดีนะทางวัดยังมีสนามสำหรับที่จอดรถไว้กว้างขวาง ...จึงหาที่จอดรถได้ไม่ยาก

พอเดินเข้าไปภายในวัด ต้องตกใจ เพราะมีคนมาเที่ยวมากมาย วัดกลายเป็นตลาดไปเสียแล้ว น่าจะเป็นการมองการณ์ไกล มีวิสัียทัีศน์ที่แยบยล เปลี่ยนวัดให้เป็นตลาดชุมชน ทำให้คนมีงานทำ พ่อค้ามีที่ค้าขาย คนปลูกผัก ทำสวนก็มีตลาดใกล้บ้าน ไม่ต้องเดินทางไกล มีนักท่องเที่ยวมาถึงที่ ของดีราคาถูกอีกด้วย




ที่วัดแห่งนี้มีสถานที่ทำบุญครบวงจร มีปิดทองพระ  ตักบาตร ๑๐๘ ทำสังฆทาน และสะเดาะเคราะห์ และลอดพระอุโบสถครบถ้วน หากท่านที่ประสงค์จะทำบุญ แนะนำว่า...มาที่วัดตะเคียน ท่านจะได้ทำบุญครบวงจรทุกอย่างครับ..กลับไปบ้านแล้วสบายใจ

การทำสังฆทาน และสะเดาะเคราะห์มีการจัดระบบอย่างดี มีการเข้าถวายเป็นชุด ๆ มีการแนะนำขั้นตอนการปฏิบัติว่ามีขั้นตอนอย่างไร เสร็จแล้วจะไปต่อที่ไหน และสุดท้ายต้องทำอย่างไร โอ้ว..สุดยอด ในการให้บริการ..

การสะเดาะเคราะห์ที่นี่ ทำพิธีดีมาก เริ่มพิธีด้วยการไหว้พระ อาราธนาศีล รับศีล มีการชุมนุมเทวดา อัญเชิญเทวดา ขอขมากรรมต่าง ๆ และพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์บทพระปริตร เพื่อสะเดาะเคราะห์ เสร็จแล้ว ไปทำพิธีนอนในโลงศพ พระสงฆ์พิจารณามาติกาบังสุกลตาย และบังสุกุลเป็น เสร็จแล้วมาประพรมน้ำพระพุทธมนตร์ เป็นอันเสร็จพิธี




ราคาขายในตลาดน้ำ ก็ราคาถูกอย่างไม่น่าเชื่อ ราคามองดูแล้ว แทบจะอยู่ไม่ได้ เป็นราคาที่สมเหตุสมผล แต่น่าเห็นใจน่ะ บางคนยังไปต่อราคาอีก โธ!! ที่ไปซื้อของตามห้าง หรือร้านสะดวกซื้อไม่เห็นต่อสักคำ !!

อยากทำบุญสะดวก มีที่รับประทานอาหารสบาย ไปแล้วกลับบ้านสบายใจ ขอแนะนำไปทำบุญที่วัดตะเคียน..เสร็จแล้วเที่ยวตลาดน้ำต่อ อย่าลืม...อดุหนุนสินค้าราคาถูกด้วยนะครับ !!!







                                                         ถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก

สำนักปฏิบัติธรรมภูแสนดาว

เมื่อวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๖๑  พระมหาใจ เขมจิตโต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม ได้พาคณะญาติธรรมเดินทางไปดูสถานที่เพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมนอกสถานที่ในช่วงปลายปี ๒๕๖๑ ในระหว่างวันที่ ๙ - ๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๑ รวม ๗ วัน  ซึ่งได้มีการจัดกิจกรรมดังกล่าวมาเป็นเวลากว่า ๕ ปี แล้ว



เป้าหมายในการเดินทางดังกล่าว มีเป้าหมายที่สำนักปฏิบัติธรรมภูแสนดาว ตำบลจันทึก อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งทราบว่า..มีสถานที่ปฏิบัติธรรมสัปปายะ เงียบสงบ และเหมาะแก่การปฏิบัติธรรมเป็นอย่างยิ่ง

สอบถามอาจารย์ว่า..ทราบมาจากใคร..บอกว่า มีเพื่อน นำญาติโยมมาปฏิบัติธรรม ณ สถานที่แห่งนี้ แล้วได้ส่งภาพกิจกรรมดังกล่าวมาให้ทราบ..จึงต้องการอยากไปดูสถานที่จริงว่า..เหมาะสมหรือไม่

การเดินทางไปครั้งนี้ มีญาติโยมประสงค์จะเดินทางไปดูสถานที่จำนวน ๑๐ ท่าน จึงได้เหมารถตู้จำนวน ๑ คัน และมีท่านอัยการท่านหนึ่งประสงค์จะพาไปดูสถานที่ที่ไร่ด้วย เผื่อเหมาะสมอาจจะใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมในครั้งนี้ได้



ปรากฎว่าถึงวันเดินทางจริง พระอาจารย์ได้นำรถเก๋งอีกคันหนึ่ง มาด้วย เนื่องจากเกรงว่ารถจะแน่นเกินไป เหมือนกับคาดการณ์ได้ว่า...รถตู้คงจะมีปัญหา..

การเดินทางออกจากวัดชนะสงคราม ขึ้นทางด่วนเส้นอุดรรัถยา-บางปะอิน - อยุธยา- สระบุรี -ปากช่อง -ลำตะคลอง-เลี้ยวซ้ายเข้าไปสถานีรถไฟคลองไผ่ และเลี้ยวซ้ายเข้าไปหล้งเขื่อนลำตะคลอง ไปอีกประมาณ ๑๑ กิโลเมตร ก็จะถึงสำนักปฏิบัติธรรมภูแสนด้าว ... ควรจะเป็นรถปิ๊คอัพจะเดินทางสะดวก หากเป็นรถตู้ และรถเก๋ง มีปัญหาในการเดินทางแน่นอน

การเดินทางไปดูสถานที่จริง ปรากฎว่าถนนเข้าสู่สำนักปฏิบัติธรรมดังกล่าวลำบาก และกันดาร ทำให้รถตู้ไม่สามารถจะขับขึ้นไปยังสถานที่ดังกล่าวได้ จำเป็นต้องอาศัยรถปิ๊คอัพของวัด ๑ คัน เพื่อถ่ายคนไปขึ้นรถคันดังกล่าว และบางส่วนต้องมาขึ้นรถที่พระอาจารย์นั่งมาด้วย





สถานที่ดังกล่าว ดูแล้วสวยงามมาก อากาศปลอดโปร่ง เงียบสงบ แต่ไม่มีต้นใหม่ใหญ่พอที่จะทำให้การฝึกปฏิบัติในช่วงกลางวันได้ หากเป็นช่วงเช้า และเย็นเหมาะสมมาก




เส้นทางในการเดินทางสำหรับใช้ในการเดินจงกรม มีเส้นทางไกล สามารถเดินรอบเป็นวงกลมอ้อมภูเขาได้ เหมาะสำหรับการเดินจงกรมในช่วงเช้า



นอกจากนั้นยังมีสถานที่สำคัญ ๆ ที่เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังมีเรือนพักรับรองที่สะอาด เหมาะสมอีกด้วย


หากมีความประสงค์จะกางเต้นนอน ก็มีสถานที่กว้างขวางในการติดตั้งเต้นให้ โดยภาพรวมแล้วเหมาะสมที่จะมาปฏิบัติธรรมเป็นอย่างยิ่ง

ท่านใดประสงค์จะปลีกวิเวก ไปหาที่ปฏิบัติธรรมที่เงียบสงบ ห่างไกลความวุ่นวาย และอยากดูใจตนเอง สำนักปฏิบัติธรรมภูแสนดาว เหมาะสมที่สุด ครับ!!!




                                                          ถ่ายภาพหมู่กับลูกสาวคนดูแลสถานที่